ชัชชาติสัญจรเขตสัมพันธวงศ์ ชูเสน่ห์ย่านการค้า กวดขันเจ้าหน้าที่ดูแลเรื่องหาบเร่-นักท่องเที่ยว

ชัชชาติสัญจรเขตสัมพันธวงศ์ ชูเสน่ห์ย่านการค้า กวดขันเจ้าหน้าที่ดูแลเรื่องหาบเร่-นักท่องเที่ยว

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครนโยบายการจัดระเบียบหาบเร่-แผงลอย

วันนี้ (22 ตุลาคม) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครนโยบายการจัดระเบียบหาบเร่-แผงลอย พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร, พินิจ กาญจนชูศักดิ์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตสัมพันธวงศ์, วัลลภ เกียรติวรศรีกุล ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ พร้อมคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่เขตสัมพันธวงศ์ ปฏิบัติภารกิจ ‘ผู้ว่าฯ สัญจร’ ที่เขตสัมพันธวงศ์ เพื่อติดตามรับฟังภาพรวมการบริหารจัดการ ปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานของเขตสัมพันธวงศ์เรื่องพื้นที่สีเขียวในเขตเขตสัมพันธวงศ์ มีพื้นที่สีเขียวน้อย อาจจะมีสวนสาธารณะอยู่บ้าง จึงสั่งเน้นไปทำพื้นที่สีเขียวบริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษมการจัดเรียงสินค้า ร้านค้าปลีก พื้นที่แนวดิ่งตามอาคาร (สวนแนวตั้ง) ช่วยดูดซับเรื่องฝุ่น พวกก๊าซมลพิษต่างๆ

 

จัดร้านค้าให้น่าซื้อ / วิธีจัดร้านขายของ

ชัชชาติกล่าวว่า เขตสัมพันธวงศ์เป็นเขตที่ขนาดเล็กที่สุดในกรุงเทพมหานคร (กทม.) มีพื้นที่ 1.416 ตารางกิโลเมตร ประชากรประมาณกว่า 20,000 คน แต่เป็นเขตที่สำคัญเพราะเป็นแหล่งเศรษฐกิจ มีย่านสำคัญคือจัดร้านค้าให้น่าซื้อ เยาวราช ตลาดน้อย รวมทั้งมีแหล่งวัฒนธรรม แหล่งท่องเที่ยว มีศาสนสถานทั้งวัดไทย วัดจีน วัดญวน มัสยิด และโบสถ์คริสต์ ลักษณะเป็นพหุวัฒนธรรม ปัญหาหลักของเขตสัมพันธวงศ์คือการค้าขาย วิธีจัดร้านขายของ โดยเฉพาะผู้ค้าหาบเร่แผงลอย ซึ่งปัจจุบันมีจุดที่เป็นพื้นที่ทำการค้าอยู่ 3 จุดชัชชาติ ได้แก่ ถนนเยาวราช ถนนราชวงศ์ และถนนข้าวหลาม มีผู้ค้า 447 ราย และมีผู้ค้านอกจุดทำการค้า 56 จุด มีจำนวนผู้ค้า 1,570 ราย เป็นคนที่ค้าขายมานาน

 

 

 การจัดการร้านค้าสมัยใหม่

ชัชชาติกล่าวว่า หลักการคือตามนโยบาย กทม. ไม่ได้ผ่อนผันให้มากขึ้น แต่ต้องจัดระเบียบให้ดี ตกแต่งร้านค้าขนาดเล็กและจุดไหนที่จะนำเข้าระบบคงต้องคุยกับตำรวจอีกครั้ง หาบเร่แผงลอยไม่ใช่เรื่องสวัสดิการสังคม ต้องดูเรื่องความสะดวกของประชาชนเป็นหลัก ทั้งนี้ เน้นให้เทศกิจเข้มงวดในการจัดจำนวนผู้ค้า วิธีการออกแบบผังร้านค้า การลงทะเบียนในจุดผ่อนผัน ห้ามให้มีจำนวนเพิ่มขึ้น ต้องดูแลให้ดี ส่วนจุดที่ยังไม่ได้มีการอนุญาต ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาต้องดูให้ละเอียด เนื่องจากกระทบหลายส่วนหลายครอบครัว

 

 

 

การจัดเรียงสินค้า ร้านค้าปลีก

ส่วนเรื่องปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จะมีจุดอ่อนอยู่ 2 ส่วน 1. จากน้ำฝน ได้แก่ ริมถนนเยาวราช ฝั่งทิศเหนือ
 อาจจะมีน้ำท่วมขัง ซึ่งต้องดูระบบระบายน้ำและการลอกท่อให้ครบถ้วน และ 2. น้ำหลากและน้ำทะเลหนุนประจำปี ได้แก่ บริเวณถนนทรงวาด ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และบริเวณชุมชนตลาดน้อย (ศาลเจ้าโรงเกือก) ซึ่งไม่มีเขื่อนกั้น “ทางเขตได้รายงานว่ามีการกั้นแนวกระสอบทรายและติดตั้งเครื่องสูบน้ำรับมือไว้แล้ว ส่วนการทำเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตอนนี้ได้รับประมาณและเตรียมดำเนินการจัดสร้างในเร็ววัน โดยสำนักการระบายน้ำ กทม. จะเป็นผู้ควบคุมดูแล” ชัชชาติกล่าวชัชชาติกล่าวอีกว่านโยบายการจัดระเบียบหาบเร่-แผงลอย เรื่องนักท่องเที่ยวได้ให้ทางเทศกิจกับทางตำรวจร่วมมือกันตั้งจุดเพื่อดูแลนักท่องเที่ยว ประสานให้ข้อมูลเพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวถูกหลอกลวง เพิ่มความเข้มงวดตรงนี้ เนื่องจากในอนาคตนักท่องเที่ยวจะกลับมาเยือนเมืองไทยมากขึ้น

 

‘ผู้ว่าฯ สัญจรเขตสัมพันธวงศ์’ ชูอัตลักษณ์ ‘เสน่ห์ย่านการค้า’ เชื่อมโยงแหล่งเศรษฐกิจเส้นเลือดฝอย

ชัชชาติได้แนวคิดคือการทำแนวทางเดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้ครอบคลุมมากขึ้น แต่เป็นทางเดินขนาดเล็กที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตชาวบ้านการจัดเรียงสินค้า ร้านค้าปลีก ที่ผ่านมาปัญหาที่ชาวบ้านไม่อยากให้ทำคือกลัวเรื่องความปลอดภัย กลัวเรื่องขโมย บางจุดริมน้ำอาจจะมีเลี้ยวเข้าไปในชุมชน เป็นทางเดินที่เชื่อมโยงกัน จะช่วยให้เส้นเลือดฝอยเข้าในพื้นที่ได้สะดวกขึ้น และประชาชนใช้สัญจรได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นโครงการที่จะต้องพิจารณาต่อไปในอนาคตนอกจากนี้ เขตได้เสนอ 2 เรื่อง คือ อยากให้ทำที่จอดรถเพิ่มขึ้น เพราะว่าพื้นที่เขตปัจจุบันไม่มีที่จอดรถ และในเขตสัมพันธวงศ์เองพื้นที่จอดรถน้อย อาจจะต้องจอดตามวัด การจัดการร้านค้าสมัยใหม่ ต้องวิเคราะห์เรื่องความคุ้มค่าอีกครั้งหนึ่ง และทางเขตสนใจที่จะทำทางเดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นทางเดินขนาดเล็ก กว้างประมาณ 2 เมตร ความยาวประมาณ 1,888 เมตร เพื่อให้เกิดการสัญจรเชื่อมโยงในเขต ซึ่งเป็นเรื่องที่อยู่ในนโยบายเรื่องการเชื่อมโยงเส้นเลือดฝอย ชัชชาติ

 

ขอบคุณเครดิตจาก  https://www.thansettakij.com